พอตไฟฟ้าอย่าง KS KURVE นั้น เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานหลากหลายแนวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานเดิมที่อาจจะเคยใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว หรือแม้แต่เพิ่งเริ่มหัดใช้งานพอตไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็ตาม โดยปกติเมื่อเริ่มต้นใช้งานเราก็จะต้องมีตัวพอตเป็นอุปกรณ์หลักและหัวน้ำยาพอตเพื่อให้พร้อมใช้งานไปด้วยกัน แต่สำหรับทางผู้ผลิตอย่าง Kardinal Stick ที่ได้ออกแบบตัวพอตอย่าง KS KURVE ให้ฟูลฟังก์ชั่นมาแล้ว และยังเผื่อเหลือไปยังไอเทมเสริมยอดฮิตต่างๆ มาเพื่อสำหรับเอาใจผู้ใช้งานโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นสายคล้องชาร์จอย่าง KS Strap ทั้งแบบรุ่นที่มีแบตในตัวเอง (รุ่นล่าสุด) หรือสายคล้องชาร์จรุ่นแรก (USB Type-C) ที่มีสีสันโฉบเฉี่ยวถึง 6 สีโดนใจทุกวัย แต่สำหรับไอเทมเสริมที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะได้รับความนิยมอย่างมาก และยังได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานอย่างล้นหลามกับ ks kurve เคส ชาร์จสุดหรูจากแบรนด์ Kardinal Stick ที่สวยงาม มีเสน่ห์และน่าค้นหาในตัว มาพร้อมฟังก์ชั่นครบๆ จบในตัวเดียวรอให้คุณได้มาจับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้
Ks kurve เคส ชาร์จล้ำๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
Table of Contents
เคส KS kurve เป็นเคสชาร์จรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปแบบกล่องสีดำสุดหรู มีขนาดความสูงที่ 136.5 MM. และกว้างอยู่ที่ 30 MM. ความลึก 22.5 MM. น้ำหนัก (ไม่รวมตัวพอต) เพียงแค่ 60 กรัม ง่ายและสะดวกต่อการพกพา ให้ความรู้สึกการทำงานไม่ต่างกับพาวเวอร์แบงค์ มีความจุของแบตเตอรี่สูงสุดที่ 1000 mAh สามารถชาร์จตัวพอต KS KURVE ได้ในระหว่างวันถึง 4-5 รอบ สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 2-3 วัน (แล้วแต่การใช้งานของแต่ละบุคคล) ใช้สายชาร์จตัวเคสด้วยสายชาร์จแบบ USB Type C หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่เก็บไฟไว้ในตัวเคสชาร์จของ KS kurve จะใช้เวลาชาร์จโดยประมาณ 90 นาที จะสามารถใช้งานได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ต้องกังวลว่า หากออกไปนอกบ้าน ใช้งานพอตนอกสถานที่แล้วเกิดว่า แบตเตอรี่ตัวพอตหมด ก็สามารถนำ Ks kurve เคสชาร์จแบบล้ำๆ มาใช้งานได้ทันที โดยวิธีใช้งานแบบพอสังเขป คือ ในขณะที่เราต้องการชาร์จเคสเพื่อเก็บไฟเข้าตัวเคสชาร์จนั้น จะใช้สายชาร์จแบบ USB Type C และจะมีไฟสีขาว แสดงถึงสถานะแบบเป็นไฟกระพริบถี่ๆ (ในขณะที่ชาร์จ) เป็นการแจ้งกับผู้ใช้งานว่า ตัวเคสนั้นอยู่ในระหว่างชาร์จตั้งแต่ 0-99% แต่ถ้าหากว่าเคสชาร์จเต็ม 100% ไฟสีขาวจะค้างไม่กระพริบ เป็นการแสดงให้กับผู้ใช้งานทราบว่า แบตเตอรี่เต็มแล้ว พร้อมใช้งานได้ทันที และอีกคำถามที่ผู้ใช้งานมักจะถามกันเข้ามาอยู่บ่อยครั้ง คือ เคสชาร์จ KS kurve นั้น ในระหว่างที่ชาร์จตัวพอตนั้น จำเป็นต้องถอดหัวน้ำยาออกหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้ว การชาร์จตัวพอต KS Kurve นั้นกับเคสชาร์จ KS kurve ในระหว่างที่ชาร์จสามารถถอดหัวน้ำยาออกหรือจะเสียบหัวน้ำยาค้างไว้อยู่ก็ได้ทั้งสองแบบ ดูหรูหราและบางเบา สบาย ไม่ต้องกังวล โดยส่วนใหญ่การชาร์จตัวพอตกับเคสชาร์จ KS kurve นั้น ก็จะใช้เวลาไม่นาน เหมือนกับการชาร์จภายนอกทั่วไป ใช้เวลาชาร์จประมาณ 18-20 นาที ซึ่งในระหว่างวันนี้สามารถชาร์จได้ 3-4 รอบ แต่ทั้งนี้ จะต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลอีกด้วย ส่วนในวิธีการสังเกตว่า เคสชาร์จ KS kurve นั้น แบตหมด หรือใกล้หมดหรือยังนั้น สามารถสังเกตได้จากหลายๆ วิธี โดยสังเกตในขณะที่ชาร์จตัวพอต (ต้องเสียบตัวพอตด้วยใส่ไว้ในเคสชาร์จด้วย) หากเมื่อแบตเตอรี่ของเคสชาร์จต่ำกว่า 35% จะมีสัญญาณไฟสีแดงขึ้น 1 ครั้ง โดยจะขึ้นติดไฟสีแดง 10 วินาที แต่ถ้าหากแบตเตอรี่ของเคสชาร์จนั้น มีมากกว่า 35% จะมีสัญญาณไฟสีขาวขึ้น 1 ครั้ง โดยจะขึ้นติดไฟสีขาวประมาณ 10 วินาที แต่ทั้งนี้ หากไม่มีสัญญาณไฟแจ้งเตือนสถานะใดๆ เลย นั่นหมายถึง แบตเตอรี่หมด ให้ชาร์จแบตเตอรี่เคสชาร์จได้เลย โดยเคสชาร์จอย่าง KS kurve นั้น เน้นความเรียบหรู แต่ดูดีมีระดับในตัว ใช้งานก็ง่าย ไม่ต้องเป็นกังวลหากแบตเตอรี่ตัวพอตหมดในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ (โดยจะต้องดูข้อกำหนดของแต่ละประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางด้วยว่า สามารถนำเข้าพอตไฟฟ้าได้อย่างถูกต้องหรือไม่) เป็นหนึ่งในไอเทมดีๆ ที่ผู้ใช้งานหลายท่านต้องมีติดตัว โดยเฉพาะหากคุณเป็นสาวก Kardinal Stick ต้องยิ่งห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดอีกด้วย
KS kurve เคสชาร์จที่คุณเป็นเจ้าของได้ ดูดีได้ง่ายๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานหลายท่านควรทราบไว้ ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันของ KS kurve เคสชาร์จนั้น คือ จะมีการรับประกัน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสินค้า สามารถสอบถามกับตัวแทนผู้จัดจำหน่ายได้ทันที หากรู้สึกพบกับปัญหาในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟไม่เข้า หรือ ตัวเคสชาร์จไม่เก็บไฟ โดยให้สังเกตอาการผิดปกติ รวมถึงถ่ายคลิปเมื่อในขณะมีการใช้งานไว้ ส่งเป็นหลักฐานเพื่อของเคลมสินค้าตัวใหม่ได้ในทันที (หากยังอยู่ในประกัน) และควรดูแลรักษาเคสชาร์จ KS kurve อย่างถูกวิธี ไม่วางบนตู้เย็น หรือไมโครเวฟ หรือแม้กระทั่งเก็บไว้ในรถ เพื่อเสี่ยงกับภาวะแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว และอาจเกิดอันตรายอื่นได้เช่นกัน ไม่ทำตกหล่นจากที่สูงบ่อยครั้ง เพื่อทำให้ตัวเคสชาร์จนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้อีกหลายเท่าตัวนั่นเอง อ่าน Ks Kurve รีวิว