สุขุม นุ่มลึก คลาสสิกทุกมุมมองกับ Relx Zero
Table of Contents
การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าในประเภทการใช้งานแบบพอตไฟฟ้าระบบปิด แต่ใครจะรู้บ้างว่าแท้จริงแล้ว พอตไฟฟ้าแบรนด์ไหนที่เริ่มเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรายแรก และมีบทบาทต่อผู้ใช้งานจนถึงปัจจุบัน โดยพอตไฟฟ้าแบรนด์นั้น ก็คือ พอตไฟฟ้าแบรนด์ Relx ซึ่งรุ่นแรกที่ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการชื่อว่า Relx Classic แต่ผู้ใช้งานมักจะคุ้นชื่อ คุ้นหู กับคำว่า Relx Zero ที่มักจะถูกเรียกกันจนติดปาก เพราะมีสาเหตุบางประการ อีกทั้งยังเป็นพอตไฟฟ้าระบบปิดรุ่นแรกๆ ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ใช้งานในช่วงระยะเวลานั้นไม่น้อย ด้วยความโดดเด่นของพอตไฟฟ้าระบบปิด อีกทั้งยังให้ฟีลสูบที่นุ่ม สมูท ดีกว่าการสูบบุหรี่มวนธรรมดาหลายเท่าตัว และยังได้รับความนิยมต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีพอตไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมาหลากหลายก็ตาม
จุดเด่นของ Relx Zero ที่ทำให้ผู้ใช้งานต่างก็หลงรัก
หลายคนอาจสับสนว่า ความจริงแล้ว Relx zero กับ Classic ต่างกันอย่างไร ซึ่งทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Zero หรือ Classic นั้น ต่างก็คือ รุ่นเดียวกัน ใช้หัวน้ำยาเดียวกัน เพียงแต่ที่ผู้ใช้งานมักจะเรียกกันอย่างติดปากว่า Relx Zero นั่นเป็นเพราะว่า เป็นพอตไฟฟ้ารุ่นแรกจากแบรนด์ relx ที่เปิดตัวจำหน่ายในประเทศไทย อีกทั้งยังมีน้ำยาพอตแบบที่ไร้นิโคติน หรือ นิโคติน 0% ซึ่งเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานเป็นครั้งแรก หรือผู้ที่กังวลว่าหากใช้พอตไฟฟ้าแล้วตนเองจะติดนิโคตินหรือไม่ โดยหลักการทำงานของรุ่น Zero นั้น เน้นการใช้งานด้วยหลักฟีลสูบ FeelM ที่กลิ่นชัด แน่น เบาสบายคอ เหมาะกับทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งานครั้งแรก ไม่เน้นการสูบจัดมากเกินไป ตัวพอตมีสีสันสวยงาม และหลากหลายสี ทั้งโทนสีเดียว และสีแบบทูโทน มีสัญลักษณ์รูปหยดน้ำกลางตัวพอต ซึ่งยังใช้เป็นตัวสำหรับการแสดงสถานะการทำงานต่างๆ ของตัวพอตได้ เช่น เมื่อสูบใช้งาน จะมีสัญญาณไฟขึ้นที่กลางสัญลักษณ์เป็นสีขาว , หากขึ้นสัญญาณไฟกระพริบสีขาว อาจเกิดขึ้นจากขั้วน้ำยาพอตหัวให้ลองสลับด้านของหัวน้ำยาพอตก่อน หรืออาจเกิดปัญหาอื่นก็ได้เช่นกัน , หากสูบแล้วขึ้นสัญญาณไฟกระพริบสีแดงที่กลางสัญลักษณ์ตัวพอต นั่นหมายถึง แบตเตอรี่ตัวพอตหมด จะไม่สามารถสูบใช้งานต่อได้ ควรชาร์จแบตเตอรี่ตัวพอตก่อนเริ่มต้นใช้งานอีกครั้ง โดยจะใช้สายชาร์จแบบ USB Type C เหมือนกับการชาร์จตัวพอตทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 20-30 นาที ไม่ควรชาร์จตัวพอตทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะจะยิ่งทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ตัวพอตนั้น เสื่อมเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย ฐานของตัวพอตเป็นทรงเหลี่ยมสามารถวางตั้งกับพื้นราบได้ มีขนาดเล็กกะทัดรัด และยังใช้งานง่าย พกพาสะดวก ตัวพอตจะมีแบตเตอรี่ที่ 350 mAh เข้ากับขนาด ใช้งานได้ตลอดวันเช่นกัน
น้ำยาพอต Relx Zero ใช้แบบไหนได้บ้าง
ผู้ใช้งานอาจเคยพบเห็นมาบ้างกับหัวน้ำยาพอตแบบเติมน้ำยาได้เอง หรือหัวรีฟีล ที่สามารถเติมน้ำยาและใช้ซ้ำวน 2-3 รอบได้ แต่ทั้งนี้ในการผลิตพอตไฟฟ้า relx ช่วงแรกของการผลิตนั้น ยังสามารถใช้หัวน้ำยาพอตแบบรีฟิลได้ เพราะยังเป็นพอตไฟฟ้าระบบเปิด แต่สำหรับปัจจุบันนั้น พอตไฟฟ้าของแบรนด์ Relx นั้น ได้ปรับและออกจำหน่ายในล็อตที่เป็นพอตไฟฟ้าระบบปิดทั้งหมด คือไม่สามารถเติมน้ำยาได้ หากยังฝืนใช้งาน อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น relx zero ดูดไม่ขึ้น เพราะอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุน้ำยาบุหรี่ที่เติมลงไปเกิดการรั่วซึม จนอาจทำให้ส่งผลต่อการทำงานของตัวพอต และเสื่อมประสิทธิภาพการทำงานเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้น้ำยาพอตยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีทั้งแบบ นิโคติน 0% หรือแบบเริ่มน้อยที่สุดที่ 1.8% แต่ทั้งนี้อาจจะหาซื้อได้ยากเล็กน้อย เพราะปัจจุบันส่วนใหญ่น้ำยาพอตบุหรี่ไฟฟ้า มักจะมีนิโคตินเป็นส่วนประกอบเริ่มต้นที่ 3% และมากที่สุดเต็มที่ 5% (เฉพาะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในแบบพอตไฟฟ้า เพราะป็นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าประเภท Salt Nicotine ที่มีความเข้มข้นสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) น้ำยาของ Zero มักจะจำหน่ายเป็นกล่อง ใน 1 กล่องจะมีบรรจุอยู่ 3 หัวพอต และ 1 หัวน้ำยาจะมีปริมาณที่ 2 มิลลิลิตร สามารถสูบใช้งานได้ประมาณ 350-450 คำ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องขึ้นอยู่กับการใช้งาน หรือพฤติกรรมของผู้สูบแต่ละคนด้วยเช่นกัน หากสูบลากยาวบ่อยครั้ง น้ำยาพอตก็อาจหมดเร็วขึ้นเช่นกันด้วย น้ำยามีทั้งโทนกลิ่นร้อนและโทนกลิ่นเย็นให้เลือกตามความชื่นชอบ ทั้งกลิ่นโคล่า กลิ่นแตงโม กลิ่นมิ้นท์ กลิ่นองุ่น กลิ่นยาสูบ หรือจะเป็นกลิ่นยอดฮิตอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันอีกด้วย
Relx Zero พอตไฟฟ้าที่ใช้ง่าย คุ้มกว่า ดีต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบัน พอตไฟฟ้าแบรนด์ Relx นั้น จะมีผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมาหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Relx infinity , Relx Phantom , Relx lite , Relx Plus แต่ผู้ใช้งานหลายท่านก็ยังคงยกให้ Relx Zero นั้นเป็นรุ่นที่คงความคลาสสิกเสมอมา และยังมีจำหน่ายอยู่ ไม่ได้ถือเป็นพอตไฟฟ้าที่ตกรุ่น ไม่มีหยุดผลิต หรืองดจำหน่าย สามารถสอบถามได้จากทางตัวแทนผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงรายละเอียดสินค้า และการรับประกันสินค้าต่างๆ ไว้เป็นการประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเช่นกัน
